อันนี้ไม่แปลกนะครับ นักการเมืองกับธนาคารกลางทะเลาะกันไม่รู้กี่ประเทศ ทะเลาะกันเต็มไปหมด
สรุปง่ายๆ คือการลงทุนต้องสูงขึ้นและเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตด้วย โดยเฉพาะการลงทุนภาคเอกชน เพราะรัฐบาลกลางอาจไม่ได้มีกำลังเท่า แต่เราหวังพึ่งรัฐวิสาหกิจได้ โดยเฉพาะรัฐวิสาหกิจใหญ่ๆ ที่มีเงินอยู่ในมือไม่น้อย เราอยากเห็นคนกลุ่มนี้ลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่ แต่ก็ยังไม่ค่อยเห็นเท่าไหร่
“แน่นอนประเทศไทยเราพยายามสู้เต็มที่ อยู่นิ่งไม่ได้ แข่งขันทุกทาง จากเดิมที่เคยใช้กลยุทธ์คุณภาพก็เริ่มต้านเรื่องราคาไม่ไหว เพราะผู้บริโภคไม่มั่นใจเงินในกระเป๋าตัวเอง ฉะนั้นจึงละทิ้งเรื่องคุณภาพหันมาสนใจราคามากกว่า ถือเป็นเรื่องที่น่ากลัว มากในภาวะเศรษฐกิจปีนี้”
ถ้าพูดกับประชาชนทั่วไปในเรื่องเศรษฐกิจ พวกเขาควรเตรียมพร้อมรับมืออะไร
แนวโน้มเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้ ถือว่ายังเหนื่อย เพราะมีปัจจัยเสี่ยงรออยู่เบื้องหน้า โดยเฉพาะความไม่แน่นอนทางการเมือง ที่กลับมารุนแรงขึ้นอีกครั้ง ส่งผลกระทบเชื่อมโยงกับสภาวะเศรษฐกิจในภาพรวมที่ยังไม่ได้ฟื้นตัวกลับมา ซึ่งในฐานะผู้ประกอบการเอกชน ก็ต้องพยายามประคองตัวเองเอาตัวให้รอดภายใต้ภาวะต้นทุนสูง สวนทางรายได้ ในธุรกิจ พยายามให้พนักงานที่เกี่ยวข้องลงไปพบลูกค้ารายบุคคลให้มากขึ้น เพื่อสร้างกระแสเงินสด รวมถึงพยายามลดการใช้จ่ายที่ถือเป็นต้นทุนของธุรกิจเท่าที่จะทำได้
ถ้ามุมมองเศรษฐกิจระหว่างรัฐบาลกับ ธปท. ไม่ตรงกัน หรือแม้แต่นโยบายการเงินกับการคลังไม่สอดคล้องกัน เราจะมีปัญหาเศรษฐกิจในภาพรวมไหม
ส่วนเรื่องสภาพแวดล้อม เทคโนโลยี การสื่อสาร อินเทอร์เน็ต ก็ควรเอื้อให้เขาสามารถโตขึ้นมาอย่างมีคุณภาพได้ แต่ก็ต้องการการสนับสนุนจากภาครัฐด้วย เช่น บริการอินเทอร์เน็ตควรจะฟรีในพื้นที่ห่างไกล เพื่อให้แน่ใจว่าคนที่มีศักยภาพแต่ขาดโอกาสจะสามารถเข้าถึงได้ และสุดท้ายเขาอาจจะสร้างการเปลี่ยนแปลงทางสังคมบางอย่างได้ในอนาคต
ช่วงหลังๆ เราเห็นกระแสกดดันการทำงานของ ธปท. เยอะมาก โดยเฉพาะในเรื่องการลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งไม่ค่อยเห็นสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน เราพอวิเคราะห์ได้ไหมว่าเป็นเพราะอะไร
แต่แน่นอน บางคนก็อาจจะไม่ได้คาดการณ์แบบนี้เพราะปัญหาหลายอย่าง ซึ่งถ้าพูดกันตามตรง เราก็ยังไม่รู้และคาดการณ์ไม่ได้ ผมว่ามันเป็นไปได้ทั้งสองฝั่งแหละ และยังมีความผันผวนสูงอยู่ด้วย
สิ่งที่ควรทบทวนคือรัฐบาลจะตั้งเป้าเพิ่มงบลงทุนอย่างไร จะชักจูงให้เกิดบรรยากาศการลงทุนอย่างไร เพราะการมีนโยบายเอื้อให้เกิดการลงทุนในเรื่องใหม่ๆ อาจจะได้ประโยชน์มากกว่ากันเยอะ ผมว่าตรงนี้รัฐบาลต้องมองให้ขาดและทำให้ขาดด้วย เพราะถ้าเราจะหวังพึ่งจากดิจิทัลวอลเล็ตอาจไม่ได้คุ้มทุนขนาดนั้น และยังต้องระวังเรื่องการขายลดคูปองอีก (นำคูปองไปขายลดราคาจากมูลค่าเพื่อแลกเป็นเงินสด) อันนี้ก็เป็นประเด็นที่พูดกันนานแล้ว แต่ผมว่ารัฐบาลก็ยังไม่มีคำตอบ
“ดังนั้น ผมอยากจะขอเตือนให้ภาคเอกชน original site ภาคอุตสาหกรรม และภาคธุรกิจต่างๆ เตรียมตัวรองรับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากความผันผวนทางการค้าและเศรษฐกิจโลกในช่วงถัดไป ส่วนภาคประชาชนขอให้เตรียมความพร้อมการใช้จ่ายประจำวันให้รอบคอบมากขึ้น เพื่อให้ผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปให้ได้”
เล็งขยายเพดานหนี้สาธารณะดันลงทุนขนาดใหญ่
อย่างไรก็ดี ปัจจัยการเมืองระหว่างประเทศจะกดดันให้เศรษฐกิจโลกขยายตัวชะลอลงและเปราะบางมากขึ้นในระยะปานกลาง ทั้งจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยืดเยื้อ นำไปสู่การปรับห่วงโซ่อุปทานและการค้าโลก รวมถึงการออกมาตรการกีดกันระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นและขยายมิติ ซึ่งจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเศรษฐกิจหลักส่วนใหญ่ไม่กลับไปอยู่ในระดับต่ำเช่นค่าเฉลี่ยในอดีตได้อีก ทั้งนี้การดำเนินนโยบายระหว่างประเทศของสหรัฐฯ หลังการเลือกตั้งทั่วไปปลายปีนี้จะเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดทิศทางการค้าโลกในระยะข้างหน้า โดยเฉพาะหากทรัมป์ชนะการเลือกตั้งจะส่งผลให้โลกแบ่งขั้วเศรษฐกิจและห่วงโซ่อุปทานเร็วขึ้น
เงินเบิกเกินบัญชี ตั๋วสัญญาใช้เงิน การรับซื้อลดตั๋วเงิน เงินกู้ระยะยาว หนังสือค้ำประกัน เลตเตอร์ออฟเครดิตเพื่อการค้ำประกัน การรับรองและอาวัลตั๋วเงิน ผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพื่อความยั่งยืน